ก่อนที่จะเริ่มสร้างเนื้อหาภายในเว็บไซต์นั้น ควรทำความเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง
category หมวดหมู่ย่อย section หมวดหมู่หลัก
content item เนื้อหา ข้อมูลหรือบทความ
เราอาจเปรียบ Section เป็น Folder ใหญ่ ซึ่งภายในจะเก็บ Folder ย่อยในที่นี้ก็คือ Category และภายใน Category จะเป็นที่เก็บ Content Item หรือไฟล์เอกสารและไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ดังรูป
ตัวอย่างโครงสร้างการจัดเก็บเนื้อหา (content)


ตัวอย่าง

1. การจัดการ Section
Section (หมวดหมู่หลัก) ทำหน้าที่จัดเก็บ Category (หมวดหมู่ย่อย)
• การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Section
• การสร้าง Section
• การลบ Section
• การแก้ไข Section
• การเปิดและซ่อน section
การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Section (Section Manager) สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1
1. คลิก Menubar แล้วเลือกคำสั่ง Content => Section Manager


1. การจัดการ Section
Section (หมวดหมู่หลัก) ทำหน้าที่จัดเก็บ Category (หมวดหมู่ย่อย)
• การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Section
• การสร้าง Section
• การลบ Section
• การแก้ไข Section
• การเปิดและซ่อน section
การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Section (Section Manager) สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1
1. คลิก Menubar แล้วเลือกคำสั่ง Content => Section Manager

วิธีที่ 2
1. คลิก menubar แล้วเลือกคำสั่ง Home เพื่อไปที่หน้าแรก (ส่วนของ Control Panel)
2. คลิกปุ่ม Section Manager

1. คลิก menubar แล้วเลือกคำสั่ง Home เพื่อไปที่หน้าแรก (ส่วนของ Control Panel)
2. คลิกปุ่ม Section Manager

เมื่อเข้าสู่ส่วนการจัดการ Section โดยวิธีที่ 1 หรือ 2 จะปรากฏส่วนแสดงรายละเอียดภายใน Section
Manager ดังรูป

Manager ดังรูป

3. กำหนดชื่อของ Section ลงใน Title และ Section Name (ใช้ชื่อเดียวกันได้) และกำหนดระดับของผู้ที่สามารถเข้ามาดูในส่วนของ Access Level ซึ่งประกอบด้วย
- Public ทุกคนสามารถเปิดดูได้
- Registered เฉพาะผู้ที่ผ่านการ Log in เข้าระบบสมาชิกจึงจะสามารถเปิดดูได้
- Special สำหรับผู้ที่อยู่กลุ่มพิเศษ(กลุ่มที่แก้ไขข้อมูลได้)เท่านั้นที่เปิดดูได้
4. เมื่อกำหนดเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม
หรือ 
การลบ Section สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ section (section manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ของ Section ที่ต้องการลบ
3. กดปุ่ม
(การลบ Section นั้นภายในต้องไม่มี Category ใด ๆ อยู่)
การแก้ไข Section สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ section (Section Manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ที่กล่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อ Section ที่ต้องการแก้ไข
3. กดปุ่ม
เพื่อเข้าสู่การแก้ไข Section
4. เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม
หรือ 
การเปิดและซ่อน Section สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าสู่ส่วนการจัดการ section (section manager)
2.หากต้องการเปิด Content ใด ๆ ที่อยู่ภายใน Section นั้น ให้ปรากฏบนเว็บไซต์ สามารถทำได้โดย
คลิกรูปสัญลักษณ์
ในคอลัมน์ของ published และหากไม่ต้องการให้ปรากฏบนเว็บไซต์ให้คลิก
เปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์
2. การจัดการ Category
Category (หมวดหมู่ย่อย) ทำหน้าที่จัดเก็บ Content Items (เนื้อหา ข้อมูลหรือบทความ)
• การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Category
• การสร้าง Category
• การลบ Category
• การแก้ไข Category
• การเปิดและซ่อน Category
การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category Manager) สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1
1. คลิก Menubar แล้วเลือกคำสั่ง Content => Category Manager

- Public ทุกคนสามารถเปิดดูได้
- Registered เฉพาะผู้ที่ผ่านการ Log in เข้าระบบสมาชิกจึงจะสามารถเปิดดูได้
- Special สำหรับผู้ที่อยู่กลุ่มพิเศษ(กลุ่มที่แก้ไขข้อมูลได้)เท่านั้นที่เปิดดูได้
4. เมื่อกำหนดเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม


การลบ Section สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ section (section manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ของ Section ที่ต้องการลบ
3. กดปุ่ม

การแก้ไข Section สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ section (Section Manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ที่กล่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อ Section ที่ต้องการแก้ไข
3. กดปุ่ม

4. เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม


การเปิดและซ่อน Section สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าสู่ส่วนการจัดการ section (section manager)
2.หากต้องการเปิด Content ใด ๆ ที่อยู่ภายใน Section นั้น ให้ปรากฏบนเว็บไซต์ สามารถทำได้โดย
คลิกรูปสัญลักษณ์

เปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์

2. การจัดการ Category
Category (หมวดหมู่ย่อย) ทำหน้าที่จัดเก็บ Content Items (เนื้อหา ข้อมูลหรือบทความ)
• การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Category
• การสร้าง Category
• การลบ Category
• การแก้ไข Category
• การเปิดและซ่อน Category
การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category Manager) สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1
1. คลิก Menubar แล้วเลือกคำสั่ง Content => Category Manager

วิธีที่ 2
1. คลิก menubar แล้วเลือกคำสั่ง Home เพื่อไปที่หน้าแรก (ส่วนของ Control Panel)
2. คลิกปุ่ม Category Manager

1. คลิก menubar แล้วเลือกคำสั่ง Home เพื่อไปที่หน้าแรก (ส่วนของ Control Panel)
2. คลิกปุ่ม Category Manager

เมื่อเข้าสู่ส่วนการจัดการ Category โดยวิธีที่ 1 หรือ 2 จะปรากฏส่วนแสดงรายละเอียด
ภายใน Category Manager ดังรูป

ภายใน Category Manager ดังรูป

3. กำหนดชื่อของ Category ลงใน Category Title และ Category Name (ใช้ชื่อเดียวกันได้)
4. กำหนด Section ที่จัดเก็บ Category นี้
5. กำหนดระดับของผู้ที่สามารถเข้ามาดูในส่วนของ Access Level ซึ่งประกอบด้วย
- Public ทุกคนสามารถเปิดดูได้
- Registered เฉพาะผู้ที่ผ่านการ Log in เข้าระบบสมาชิกจึงจะสามารถเปิดดูได้
- Special สำหรับผู้ที่อยู่กลุ่มพิเศษ(กลุ่มที่แก้ไขข้อมูลได้)เท่านั้นที่เปิดดูได้
4. เมื่อกำหนดเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม
หรือ 
การลบ Category สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ของ Category ที่ต้องการลบ
3. กดปุ่ม
(การลบ Category นั้นภายในต้องไม่มี Category ใด ๆ อยู่)
การแก้ไข Category สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category Manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ที่กล่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อ Category ที่ต้องการแก้ไข
3. กดปุ่ม
เพื่อเข้าสู่การแก้ไข Category
4. เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม
หรือ 
การเปิดและซ่อน Category สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category manager)
2.หากต้องการเปิด Content ใด ๆ ที่อยู่ภายใน Category นั้น ให้ปรากฏบนเว็บไซต์ สามารถทำได้
โดยคลิกรูปสัญลักษณ์
ในคอลัมน์ของ published และหากไม่ต้องการให้ปรากฏบนเว็บไซต์ให้
คลิกเปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์
3. การจัดการ Content Item
Content Items (เนื้อหา ข้อมูลหรือบทความ)
• การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item
• การสร้าง Content Item
• การลบ Content Item
• การแก้ไข Content Item
• การนำ content item แสดงบนหน้าแรกของเว็บไซต์
• การเปิดและซ่อน Content Item
การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items Manager) สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1
1. คลิก Menubar แล้วเลือกคำสั่ง Content => All Content Items

4. กำหนด Section ที่จัดเก็บ Category นี้
5. กำหนดระดับของผู้ที่สามารถเข้ามาดูในส่วนของ Access Level ซึ่งประกอบด้วย
- Public ทุกคนสามารถเปิดดูได้
- Registered เฉพาะผู้ที่ผ่านการ Log in เข้าระบบสมาชิกจึงจะสามารถเปิดดูได้
- Special สำหรับผู้ที่อยู่กลุ่มพิเศษ(กลุ่มที่แก้ไขข้อมูลได้)เท่านั้นที่เปิดดูได้
4. เมื่อกำหนดเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม


การลบ Category สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ของ Category ที่ต้องการลบ
3. กดปุ่ม

การแก้ไข Category สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category Manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ที่กล่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อ Category ที่ต้องการแก้ไข
3. กดปุ่ม

4. เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม


การเปิดและซ่อน Category สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าสู่ส่วนการจัดการ Category (Category manager)
2.หากต้องการเปิด Content ใด ๆ ที่อยู่ภายใน Category นั้น ให้ปรากฏบนเว็บไซต์ สามารถทำได้
โดยคลิกรูปสัญลักษณ์

คลิกเปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์

3. การจัดการ Content Item
Content Items (เนื้อหา ข้อมูลหรือบทความ)
• การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item
• การสร้าง Content Item
• การลบ Content Item
• การแก้ไข Content Item
• การนำ content item แสดงบนหน้าแรกของเว็บไซต์
• การเปิดและซ่อน Content Item
การเข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items Manager) สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1
1. คลิก Menubar แล้วเลือกคำสั่ง Content => All Content Items

วิธีที่ 2
1. คลิก menubar แล้วเลือกคำสั่ง Home เพื่อไปที่หน้าแรก (ส่วนของ Control Panel)
2. คลิกปุ่ม Content Items Manager

เมื่อเข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item โดยวิธีที่ 1 หรือ 2 จะปรากฏส่วนแสดงรายละเอียด
ภายใน Content Items Manager ดังรูป

1. คลิก menubar แล้วเลือกคำสั่ง Home เพื่อไปที่หน้าแรก (ส่วนของ Control Panel)
2. คลิกปุ่ม Content Items Manager

เมื่อเข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item โดยวิธีที่ 1 หรือ 2 จะปรากฏส่วนแสดงรายละเอียด
ภายใน Content Items Manager ดังรูป

การสร้าง Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2. กดปุ่ม
จากนั้นจะเข้าสู่ส่วนการกำหนดค่าต่าง ๆ

5. พิมพ์และใส่ข้อมูลลงในกรอบ Intro Text และ Main Text
6. ระหว่างพิมพ์และใส่ข้อมูลสามารถกดปุ่ม
เพื่อเปิด pop up แสดง Content Item
7. เสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม
หรือ 
การลบ Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ของ Content Item ที่ต้องการลบ
3. กดปุ่ม
(การลบ Content Item นั้นภายในต้องไม่มี Content Item ใด ๆ อยู่)
การแก้ไข Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ที่กล่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อ Content Item ที่ต้องการแก้ไข
3. กดปุ่ม
เพื่อเข้าสู่การแก้ไข Content Item
4. ระหว่างแก้ไขสามารถกดปุ่ม
เพื่อเปิด pop up แสดง content item
5. เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม
หรือ 
การนำ Content Item แสดงบนหน้าแรกของเว็บไซต์ สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ content item (content items manager)
2. คลิกในคอลัมน์ของ Front Page ให้แสดงเครื่องหมาย
ของ content item ที่ต้องการแสดงบน
หน้าแรก หากไม่ต้องให้คลิกอีกครั้งให้แสดงเครื่องหมาย
การเปิดและซ่อน Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2.หากต้องการเปิด Content ใด ๆ ที่อยู่ภายใน Content Item นั้น ให้ปรากฏบนเว็บไซต์ สามารถทำ
ได้โดยคลิกรูปสัญลักษณ์
ในคอลัมน์ของ published และหากไม่ต้องการให้ปรากฏบนเว็บไซต์
ให้คลิกเปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2. กดปุ่ม


5. พิมพ์และใส่ข้อมูลลงในกรอบ Intro Text และ Main Text
6. ระหว่างพิมพ์และใส่ข้อมูลสามารถกดปุ่ม

7. เสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม


การลบ Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ของ Content Item ที่ต้องการลบ
3. กดปุ่ม

การแก้ไข Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2. เช็คเครื่องหมาย √ ที่กล่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อ Content Item ที่ต้องการแก้ไข
3. กดปุ่ม

4. ระหว่างแก้ไขสามารถกดปุ่ม

5. เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้กดปุ่ม


การนำ Content Item แสดงบนหน้าแรกของเว็บไซต์ สามารถทำได้ดังนี้
1. เข้าสู่ส่วนการจัดการ content item (content items manager)
2. คลิกในคอลัมน์ของ Front Page ให้แสดงเครื่องหมาย

หน้าแรก หากไม่ต้องให้คลิกอีกครั้งให้แสดงเครื่องหมาย

การเปิดและซ่อน Content Item สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าสู่ส่วนการจัดการ Content Item (Content Items manager)
2.หากต้องการเปิด Content ใด ๆ ที่อยู่ภายใน Content Item นั้น ให้ปรากฏบนเว็บไซต์ สามารถทำ
ได้โดยคลิกรูปสัญลักษณ์

ให้คลิกเปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์
